หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กาน้ำชาจีน 中国传统茶壶艺术


กาน้ำชาจีน  การดื่มชา 
เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกศิลปวัฒนธรรมจีนอย่างหนึ่ง ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ 
ชาวจีนเป็นชาติแรกที่รู้จักการดื่มชา

การดื่มชาจึงเป็นสิ่งสำคัญ 7 อย่างในชีวิตประจำวันของชาวจีน (开门七大事)  มาตั้งแต่โบราณ  
กาน้ำชาสวยๆ ในปัจจุบันเหมาะสำหรับการตั้งโชว์ เป็นของฝาก เป็นของที่ระลึก  มากกว่าการใช้งานชงชาจริง 

中国传统茶壶艺术    
 泰国张碧云拍摄 

 中國茶壺傳統藝術


ถ้วยน้ำชาจีนทรงโบราณสามขาใบแรกนี้ขอจองไว้สำหรับมอบให้ตัวเองละกันค่ะ 




กาน้ำชาจีนใบต่อไปนี้ขอมอบให้บล็อกเกอร์ท่านที่บอกว่า "ตอนนี้ยืมใช้ของเพื่อนอยู่" ค่ะ




อักษรจีนที่เขียนไว้ข้างกาน้ำชาใบกลางและใบขวา เรียกว่าอักษรจีน 篆书 จ้วนซู  เป็นตัวอักษรโบราณที่ใช้เมื่อประมาณ 2000 กว่าปีก่อน (ในสมัยราชวงศ์ฉิน) 



กาน้ำชาจีนสีแดงพร้อมถ้วยชาสไตล์หรูๆ หน่อยก็ขอมอบให้ท่านที่ชื่นชอบค่ะ



ชุดนี้ชงชาดื่มแล้วจะได้มีทองเต็มบ้านค่ะ 







กาน้ำชาจีนแกะสลักด้วยหยกนี้ ไม่ได้ตั้งขายนะคะ 
แต่ผู้เขียนถ่ายมาจากพิพิธภัณฑ์นครหลวง 北京首都博物馆











 ดูเพิ่มเติม เจาะลึกปักกิ่ง ตอน CAPITAL MUSEUM http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2011/08/31/entry-2 
อักษรจีนตัว 壽 ที่แกะสลักอยู่ข้างกาน้ำชาหยกนี้ ออกเสียงจีนกลางว่า โซ่ว แปลว่าอายุยืนยาว อายุวัฒนะ 
ออกเสียงจีนแต้จิ๋วว่า ซิ่ว  เป็น หนึ่งใน ฮก ลก ซิ่ว  福 祿 壽 

 

  อักษรจีน 壺 ที่แปลว่ากาน้ำ มาจากอักษรภาพของจีนโบราณ ที่วาดเป็นรูปคล้ายกาน้ำชานะคะ


3 รูปหลังเป็นภาพบรรยากาศในร้านขายชาจีนค่ะ  


รูปนี้เคยโพสในเอนทรี่ก่อนหน้า  แต่ตัดต่อใหม่ให้เห็นชัดขึ้นค่ะ


Art of Chinese Teapot   


Chinese Teapot  ภาพกาน้ำชาจีน  中国茶壶
 (เป็นภาพที่ผู้เขียนถ่ายจากปักกิ่งเมื่อปี 2011 และ 2012)
.....................................

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง 


รีวิวถ้วยน้ำชา กาน้ำชา TWG  (click here) http://suwannas.blogspot.com/2013/08/twg.html

http://suwannas.blogspot.com/2013/08/twg.html


ติดตาม เรียนภาษาจีน  เกร็ดวัฒนธรรมจีน  เกร็ดประวัติศาสตร์จีน และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับจีนๆ  ได้ที่ 

                        Facebook fanpage : Suwanna future C







Flag Counter ..๑๑๑๑๑

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รีวิวถ้วยน้ำชา กาน้ำชา TWG


สำหรับคนชอบถ้วยน้ำชา กาน้ำชาสไตล์ต่างๆ

รีวิวถ้วยน้ำชา กาน้ำชา TWG   




เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา
 ดิืฉันมีโอกาสได้ต้อนรับอาจารย์จาก BLCU 
(ฺำ่ Beijing Language and Culture University ) 

หลังจากพาอาจารย์และภรรยาไปนมัสการพระพรหมแล้ว  
ก็พาไปเดินที่สยามพารากอนต่ออีกนิดหน่อย




อาจารย์เห็นกาน้ำชาชุดนี้  ซื้อไปเป็นของฝาก










ในช็อปของ TWG +Siam Paragon  
มีพนักงานขายคนหนึ่งที่พูดภาษาจีนกลางได้ดีมาก
ชื่อน้องน้ำผึ้ง  จึงสามารถสื่อสารกับลูกค้าชาวจีนได้เป็นอย่างดี  
เธอให้การต้อนรับและชวนให้ดมใบชาชนิดนั้นชนิดนี้  
สรุปว่าได้ยอดซื้อไปประมาณสามหมื่นบาท 




ใบชากับบรรจุภัณฑ์สวยเก๋

















































เรื่องที่เกี่ยวข้อง

กาน้ำชาจีน  中国传统茶壶艺术



ติดตาม เรียนภาษาจีน  เกร็ดวัฒนธรรมจีน   
Suwanna Future C

http://www.futurec-cn.com
                      


Flag Counter

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เกร็ดวัฒนธรรมจีน วันสารทจีน 中元节


    ขอนำเรื่องเก่าที่เคยเขียนไว้เมื่อสองปีก่อนมาโพสต์ในบล็อกนี้โดยที่ยังไม่มีการขัดเกลาเพิ่มเติม
     เรื่องนี้้ ผู้เขียน(เหล่าซือสุวรรณา) โพสต์ครั้งแรกที่ โอเคเนชั่นบล็อก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2554 (2011)

    ชื่อเรื่องเดิม
     เกร็ดวัฒนธรรมจีน วันสารทจีน  中元节  
    วัฒนธรรมใหม่เกี่ยวกับวันสารทจีนที่แตกต่างจากสมัยก่อน
    .............................
    -  วันสารทจีน อวยพรด้วยคำว่า 中元节快乐。ได้หรือไม่ ?
     
     -  ทำไมถึงมีพิธีเทกระจาดในช่วงเทศกาลสารทจีน ? 

     -  ทำไมวันสารทจีน จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า 鬼节 ( เทศกาลผี ) หรือ "วันปล่อยผี" ?
   
     -  เป็นเทศกาลสำคัญของชาวจีนทั่วประเทศหรือไม่ ?  ทำไมที่จีนไม่ใช่วันหยุดราชการ ?
     
     -  คนหนุ่มสาวในจีนปัจจุบัน ยังคงรักษาประเพณีไหว้บรรพชนหรือไม่ ?

     * ลองหาคำตอบจากบทความนี้ของเหล่าซือสุวรรณาค่ะ    
   
...............................................
  
    วันที่ 14 สิงหาคม 2011 ที่ผ่านมา  เป็นวันสารทจีน ที่ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน วันสาร์ทจีนปีนี้จึงอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกับวันแม่แห่งชาติพอดี

    วันสารทจีน   ภาษาจีนเรียกว่า 中元节  ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า  七月半  และมีอีกชื่อหนึ่งที่ไม่ค่อยน่าฟังก็คือ 鬼节 ( เทศกาลผี ) ซึ่งเชื่อว่าเป็นวันที่ยมบาลเปิดประตูยมโลกอนุญาตให้ดวงวิญญาณต่างๆ ออกมาได้ 

     วันสารทจีน เป็นเทศกาลแห่งการรำลึกถึงบรรพชนผู้ล่วงลับและแผ่เมตตาแผ่บุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณไม่มีญาติ  จึงมีพิธีเทกระจาดในช่วงนี้ด้วย

     ประเพณีโบราณของจีนเกี่ยวกับวันสารทจีนนั้น  เป็นประเพณีของชาวจีนตอนใต้  เช่น ชาวจีนในมณฑลกวางตุ้ง  คุนหมิง ฝูเจี้ยน กวางสี ฯลฯ  ในบางท้องถิ่นของไต้หวัน มีการลอยกระทง  บางท้องถิ่นในมณฑลกวางสี  ประชาชนจะไม่นิยมออกนอกบ้านในวันสารทจีน  เพราะเชื่อว่าเป็นวัน " ปล่อยผี " นั่นเอง

      ที่น่าสนใจคือ แม้ชาวจีนทางใต้ของจีนจะให้ความสำคัญกับวันสารทจีนมาก  แต่ชาวจีนทางเหนือของจีนไม่ถือวันนี้เป็นวันสำคัญ  บางคนไม่รู้จักเทศกาลนี้ด้วยซ้ำ 

      วันสารทจีน  ศาสนาพุทธจะให้ความสำคัญกับการแผ่บุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับและดวงวิญญาณที่ไม่มีญาติ  ส่วนลัทธิเต๋าจะเน้นเรื่องกตัญญููต่อบรรพชน  

      สำหรับชาวจีนแต้จิ๋ว  วันสารทจีน เป็นเทศกาลสำคัญอันดับ 2 รองจากวันตรุษจีน  
      ส่วนชาวจีนกวางตุ้งจะให้ความสำคัญกับเทศกาลไหว้พระจันทร์มากกว่าวันสารทจีน  
      วันไหว้พระจันทร์เป็นวันหยุดราชการของประเทศจีนและฮ่องกงด้วย

      คนไทยเชื้อสายจีนและลูกหลานชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศต่างๆจำนวนมาก  ยังคงยึดมั่นกับประเพณีไหว้บรรพชนอยู่  ถึงแม้ว่าพิธีการและของเซ่นไหว้จะมีการประยุกต์ให้เรียบง่ายเหมาะกับสภาพไปมากแล้วก็ตาม  ส่วนมากไหว้แล้วก็ขอพรต่างๆ เช่น ขอให้คุ้มครอง  ขอให้ลูกหลานร่ำรวย  ขอให้ถูกหวย ขอให้ทำมาค้าขึ้น ขอให้แข็งแรง ขอให้สอบได้ ฯลฯ  
       แต่ลูกหลานจำนวนหนึ่งอาจจะไม่ได้หวังหรือเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์มากนัก  อยากไหว้เนื่องจากระลึกถึงพ่อแม่ปู่ย่าตายายมากกว่า  ไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งที่ไหว้  สิ่งที่เผาไปให้นั้น  พ่อแม่จะได้รับจริงหรือเปล่า  แต่อย่างน้อยรู้สึกว่าอยากจะทำ  อยากให้เขารู้ว่าลูกไม่ลืมที่มาของตนเองและผู้เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนจนมีวันนี้  ถ้าพวกเขารับรู้ได้  ก็อยากให้รู้ว่าลูกยังคิดถึงตลอดเวลา  อยากให้พวกเขากลับมาหา  อยากจะรู้ว่าพวกเขาอยู่ในภพอื่นมีความสุขดีหรือไม่  ต้องการให้ลูกทำอะไรให้เขาบ้างไหม  อธิฐานขอให้มาเข้าฝันบอกหน่อยก็ยังดี   


    

    
      ในวันสารทจีนทุกๆ ปี  ชาวไทยเชื้อสายจีนจะมีการเซ่นไหว้บรรพชนด้วยอาหารต่างๆ ที่พวกเขาชอบ ( แต่ปัจจุบันก็ได้ประยุกต์เป็นไหว้ด้วยอาหารที่ตนเองและลูกๆ ชอบ  ให้อากงอาม่าต้องชอบด้วย ) และมีการเผากระดาษเงินกระดาษทอง  โดยเชื่อว่าจะสามารถส่งเงินทองไปให้กับผู้ที่อยู่อีกภพหนึ่งได้ใช้  ชาวจีนสมัยก่อนเชื่อว่าถ้าลูกหลานทานอาหารที่เซ่นไหว้แล้ว  จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต  



      แต่ว่า ในขณะที่คนไทยเชื้อสายจีน รวมถึงลูกหลานจีนในประเทศต่างๆ ยังคงรักษาประเพณีการไหว้บรรพชนนี้อยู่  คนหนุ่มสาวในประเทศจีนจำนวนหนึ่งได้หันไปสร้างเว็บไซต์และไหว้ผ่านเน็ตกันแล้ว  โดยไปสร้างภาพสุสาน  ใส่รูปบรรพชน  สร้างรูปของเซ่นไหว้ รวมถึงการเขียนข้อความอาลัยต่างๆ ลงในเว็ป แทนที่จะมีการไหว้กันจริงๆ  เช่น  เขียนว่า .... คุณพ่อ  วันนี้ เรามาเยี่ยมท่านแล้วนะ ......  

         ในฮ่องกง  การเผากระดาษเงินกระดาษทองกำลังจะหมดไป  เนื่องจากทางการฮ่องกงได้ออกกฎห้ามเผากระดาษในที่พักซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟลตหรือคอนโด  ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมลพิษและทำให้โลกร้อน  รวมถึงอาจจะก่อให้เกิดอัคคีภัยได้ด้วย

สุวรรณา สนเที่ยง
..............
เกร็ดวัฒนธรรมจีน

หมายเหตุ  รูปที่นำมาลงประกอบนี้  เป็นรูปที่ถ่ายไว้ตอนตรุษจีน


( ข้อเขียนทั้งหมดนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของสุวรรณา สนเที่ยง  ท่านใดต้องการนำไปเผยแพร่ต่อ หรือคัดลอกตอนใดตอนหนึ่ง ขอความกรุณาระบุที่มาและได้รับอนุญาตจากผู้เขียนก่อน ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักจรรยาบรรณและบรรทัดฐานร่วมกัน )


โพสต์ครั้งแรก ที่ 
http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2011/08/15/entry-1
วันจันทร์ ที่ 15 สิงหาคม 2554
Posted by เหล่าซือสุวรรณา
" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" postmessage_init="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" sendxdhttprequest="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" setcache="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" getcache="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" setcachecontext="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" clearallcache="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }">


  ๑๑๑๑๑ เกร็ดภาษาจีน (คลิกที่นี่) หวังว่าจะเป็นประโยชน์   ขออภัยในข้อบกพร่องใดๆ ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นFlag Counter

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เศรษฐกิจถดถอย ภาษาจีนใช้คำว่าอะไร ?

เศรษฐกิจถดถอย ภาษาจีนใช้คำว่าอะไร ?


เศรษฐกิจถดถอย ภาษาจีนใช้คำว่าอะไร ?

คำว่า
เศรษฐกิจถดถอย  
ภาษาจีนใช้อย่างนี้ค่ะ  

经济萎缩
Jīngjì wěisuō

ตัวอย่างการแปลข้อความหรือข่าวเศรษฐกิจเรื่องนี้
สำนักข่าว BBC รายงาน ไทยกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสที่สองของปีนี้

英国 BBC 新闻报道:
泰国经济从今年第二期开始进入萎缩状况
Tàiguó jīngjì cóng jīnnián dì èr qí kāishǐ jìnrù wěisuō zhuàngkuàng.

Thailand's economy falls into recession


萎  wěi แปลว่า  เหี่ยวลง เฉาลง ซบเซา

 

缩  suō แปลว่า หดเล็กลง


คำนี้  ใช้ได้ตลอด ไม่มีล้าสมัย
สมัยเหล่าซือทำงานแปลข่าวเมื่อ 30 ปีที่แล้วก็ต้องใช้ 
ช่วงประวัติศาสตร์วิกฤตเศรษฐกิจปี 40  ใช้เยอะ จำขึ้นใจ
เลยเอามาฝาก

ส่วนหลัการแปลนั้น  ก็อ่านให้เข้าใจก่อนว่าเนื้อหาทั้งหมดนั้นต้องการสื่ออะไร  แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาจีน 
โดยเลือกใช้คำศัพท์และเรียงลำดับให้ถูกหลักไวยากรณ์จีน  
ถ้าใช้วิธีแปลคำต่อคำจะไม่ได้ความหมาย 

   ฿  ..  ฿  ..  ฿  ..  ฿  ..  ฿ ..  ฿ ..  ฿ ..  ฿ ..  ฿   

ความรู้ภาษาจีนของเราต้องตามให้ทันสถานการณ์

ขอบคุณพื้นที่ของ Google 

ที่เอื้อให้ดิฉันสามารถสื่อกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในไทยและในต่างประเทศ


ส่วนหนึ่งจากห้องเรียนของฉัน

เพื่อคนชอบภาษาจีนที่ไม่สามารถเดินทางมาเรียนที่สถาบันดิฉันได้
ภาษาจีนขั้นสูง  
หลักสูตรการแปลและล่าม 
หลักสูตรภาษาจีนธุรกิจระหว่างประเทศ
#เหล่าซือสุวรรณา

ปัจจุบัน  ในแวดวงนักเรียนดิฉัน  มีคนที่เรียนภาษาจีนถึงขั้นสูง ขั้นที่ต้องใช้ภาษาในการสื่อสารระดับทางการ  เช่น  
รัฐต่อรัฐ  หน่วยงานต่อหน่วยงาน  ผู้แปลข่าว  ธุรกิจระหว่างประเทศ  
ผู้จัดการและผู้ประสานงานของบริษัทใหญ่ๆ  ที่ตั้งอยู่ในไทยและสำนักงานในจีน 
มีนักเรียนที่ศึกษาต่อในประเทศจีนสาขาเศรษฐศาสตร์ 
สาขาบริหารธุรกิจ  รัฐศาสตร์สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ฯลฯ  
จึงขอเอาคำศัพท์ประเภทนี้มากฝากทั้งนักเรียนที่แยกย้ายไปปฏิบัติงานในหน่วยงาน เมืองต่างๆ และทุกคนที่สนใจ  
เพื่อจะได้นำไปใช้งานค่ะ

สำหรับคนที่สนใจการใช้ภาษาจีนอื่นๆ  ฟังเพลงจีน  สำนวนจีน  เรื่องจีนๆ  เิชิญที่ 
เฟซบุ๊ก  




Flag Counter


Flag Counter
..๑๑๑๑๑

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แนะนำ ตอบคำถาม ไปเที่ยวปักกิ่งด้วยตนเอง ตารางเวลา สิ่งที่น่าสนใจ - พึงระวัง และอื่นๆ



ข้อมูลภาพรวมของปักกิ่ง และ เรื่องที่ต้องระวัง
เอนทรี่นี้เขียนเพื่อผู้อ่านที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเองค่ะ


( ล่าสุด  สิงหาคม 2013  สภาพอากาศที่ปักกิ่งร้อนและมีฝนตก  ท่านที่จะไปช่วงนี้ก็ระวังสุขภาพเรื่องไข้หวัดด้วยค่ะ)

ตรวจสอบสภาพอากาศที่ประเทศจีน ได้ที่ http://www.weather.com.cn/forecast/

......................................................

ตั้งแต่เขียนเรื่องต่างๆ ลงใน Blog ก็มีท่านผู้อ่านติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ  
อย่างเรื่องที่เปิดสอนหลักสูตรการแปลและล่ามภาษาจีน  เป็นเอนทรี่ที่มีคนสนใจติดต่อสอบถามเข้ามามากที่สุด  รองลงมาก็คือเรื่องการเรียนภาษาจีนในประเทศไทย  การขอให้แนะนำสถานที่เรียนและสมัครเรียนภาษาจีนในประเทศจีน   ข้อมูลเจาะลึก - เที่ยวปักกิ่ง  รวมถึงเรื่องการสอบ HSK การขอทุน ฯ   


ที่ผ่านมา รวมทั้งช่วงนี้ด้วย มีผู้อ่านบล็อกหลายคนบอกว่าจะไปเที่ยวปักกิ่งช่วงใกล้ๆ นี้  ขอข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามา   
ดิฉันก็เลยถือโอกาสเขียนเป็นเอนทรี่ตอบทีเดียวหลายๆ ท่าน  เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านอื่นๆ ที่สนใจค่ะ

ตัวอย่างคำถามที่ได้รับนะคะ   

 .......ผมมีโปรแกรมพาครอบครัวไปเที่ยวปักกิ่ง แบบไปกันเองครับ
เคยเห็นอาจารย์ลงร้านอาหารไว้ในบล็อค  แต่ตอนนี้ไม่สามารถดูรูปได้
ผมอ่านแล้วรู้สึกสนใจมาก  อยากทราบว่า  ร้านอาหาร ............  อยู่ที่ไหน เดินทางอย่างไรครับ
ไปกัน 6 คนครับ  พูดจีนไม่ได้ด้วย ^^

ส่งโปรแกรมผมมาให้ดูก่อนนะครับ 

วันที่ 1 คือ ไปเที่ยว จตุรัสเทียน พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และสวนที่ออกไปทางข้างหลังพระราชวังกู้กงครับ
เย็น ๆ ไปดูกายกรรม เสร็จจากกายกรรมแล้ว จะไปเดินถนน หวางฝู่จิง ปิดท้าย แล้วค่อยกลับที่พักครับ.......
......................................................................................


ดิฉันขอขอพูดถึงเรื่องนี้ก่อนนะคะ สิ่งที่ควรสนใจก่อนไปเที่ยวปักกิ่งด้วยตนเอง เดี๋ยวค่อยมาว่าเรื่องเส้นทางค่ะ

สิ่งที่ควรสนใจ

1.  การเดินทางในปักกิ่ง
     ถ้าใช้รถไฟฟ้าในปักกิ่ง จะต้องรู้ก่อนว่าแต่ละสถานีห่างกันไกลมาก ไม่เหมือน บีทีเอส ในกรุงเทพฯ
     ถ้าใช้แท๊กซี่  กฎหมายเขาห้ามคนนั่งเกิน 4 คนต่อคัน ถ้าไป 5 คน จะต้องแยกเป็น 2 คัน เด็กก็ไม่ได้รับการยกเว้น  เวลาเรียกรถแท๊กซี่ จะต้องบอกให้แน่ชัดว่าให้ไปส่งที่ทางเข้าด้านไหนของแหล่งท่องเที่ยว ไม่งั้นหลงกันได้ง่ายมาก  เพราะประตูทางเข้า-ออกแต่ละด้านห่างกันไกลหลายกิโล 
     ในเวลาเร่งด่วน เช่น เช้า เย็น หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อย่างเฉียนเหมิน แท๊กซี่เรียกยากมาก  เคยเจอมาแล้ว 30 นาทียังเรียกไม่ได้เลย
     เพิ่มเติมเรื่องแท๊กซี่  แท๊กซี่ที่ปักกิ่งมีความปลอดภัยกว่าในกรุงเทพฯ  ทุกครั้งจะมีใบเสร็จเล็กๆ ให้ ในนั้นจะมีรายละเอียดต่างๆ เช่น หมายเลขรถ เบอร์โทรคนขับ เวลาที่ผู้โดยสารขึ้น-ลงรถ ฯลฯ  ถ้าลืมของบนรถ จะตามได้สะดวก  
     ถ้าระยะทางไกล คนขับจะเรียกเก็บค่าเชื้อเพลิงเพิ่ม 1 - 2 หยวน ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของแท๊กซี่ปักกิ่ง  อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นการเรียกเงินเกินมิเตอร์  

2.   การจัดโปรแกรมเที่ยวปักกิ่ง
      จะต้องรู้ก่อนว่าร้านค้าย่านที่จะไป ปิดกี่โมง  อย่างกรณีที่สอบถามมา ว่าดูกายกรรมเสร็จไปเดินหวังฝูจิ่งต่อ  ต้องดูว่ากายกรรมแสดงเสร็จกี่โมง ระยะทางห่างกันมั๊ย  ถ้าไปหวังฝูจิ่งหลัง 3 ทุ่ม ห้างร้านก็ปิดหมดแล้ว

3.  การจัดเส้นทาง
     เนื่องจากแต่ละจุดห่างกันมาก  จะต้องดูว่า แหล่งท่องเที่ยวและร้านอาหารไหนอยู่โซนไหน  จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางย้อนไปย้อนมา

      สำหรับเส้นทางเที่ยวและกินที่ปักกิ่ง จริงๆ แล้วตัวองก็ยังไม่เคยไปแบบแบคแพคจริงๆ  เพราะทุกครั้งจะเป็นแบบผสมๆ คือ เช่ารถบ้าง เรียกแท๊กซี่บ้าง ขึ้นรถเมลล์รถไฟฟ้าบ้าง  เนื่องจากมีเวลาจำกัด ต้องไปเที่ยวแต่ละที่แข่งกับเวลา
4.  ภาษา
     ใช้ภาษาจีนกลาง ชาวเมืองปักกิ่งยังไม่ใช้ภาษาอังกฤษ  คนขับแท๊กซี่จำนวนมากยังไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ  แม้แต่ในร้านค้า ก็ไม่ใช่ว่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ทุกร้าน
5.  ช่วงเวลาที่ไปเที่ยว
     หลีกเลี่ยงวันหยุดยาวของจีน เช่น ตรุษจีน วันแรงงาน วันเชงเม้ง วันชาติ ฯลฯ เพราะคนจะเยอะไปหมดทุกจุด 


ดิฉันแนะนำเส้นทางเที่ยวและกินที่ปักกิ่งอย่างนี้นะคะ เป็นแค่แนวๆ เท่านั้น  ต้องปรับให้เหมาะกับสภาพเงื่อนไข  เวลา และ ที่พักของแต่ละท่านค่ะ

เส้นทางเที่ยวและกินที่ปักกิ่ง

วันแรก  กู้กง เทียนอันเหมิน  เทียนฐาน (หอฟ้าเทียนฐาน)  เฉียนเหมิน
ช่วงเช้า ไปกู้กง เทียนอันเหมิน
เพราะวันแรกยังแรงดีอยู่ ( ถ้าดูละเอียดหรือค่อยๆ เดินก็ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทางที่เดินก็ประมาณ 7 - 10 กม.) จะเมื่อยขามาก  ประตูทางออกด้านใต้ของกู้กง จะไม่มีสถานีรถไฟฟ้า และจุดนี้จะมีรถรับจ้างที่มาเอาเปรียบนักท่องเที่ยวที่เมื่อยขาจำนวนมากดักรอเหยื่ออยู่ (อย่าใช้รถบริการพวกนี้นะคะ รถพวกนี้ไม่ถูกกฎหมาย เวลารถตำรวจผ่านมา เขาจะรีบขับหนี)




มื้อเที่ยง  หาอาหารแถวนั้นทานก่อน แล้วหารถต่อไปชมเทียนฐาน (หอฟ้าเทียนฐาน)  ข้างในกว้างมาก ต้องเดินเยอะ ประตูด้านที่ออกจากเทียนฐาน ไม่มีสถานีรถไฟฟ้า (แต่มีร้านอาหารเล็กๆ อยู่สองฝั่งประตูทางออก)
เย็น กลับมาทานอาหารที่เฉียนเหมิน ซึ่งก็มีทั้งร้านใหญ่ๆ ดังๆ แพงๆ  และร้านเล็กในซอย ราคาถูกกว่า ซึ่งก็อร่อยไม่แพ้กัน  
ที่เฉียนเหมินมีร้าน KFC ตรงหัวมุมสี่แยก (บรรยากาศดี ผนังภายในและเพดานตกแต่งเป็นภาพกำแพงเมืองจีน) และ ร้ากาแฟสตาร์บัค  นั่งพักขาได้  แล้วเดินซื้อของฝาก เพราะที่เฉียนเหมิน ของจะถูกกว่าแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ  ที่เฉียนเหมินก็มีทั้งของถูกของแพง  เห็นร้านที่ขายของทุกชิ้น 10 หยวนอย่าเพิ่งซื้อ  ถ้าเดินต่อไปอีกหน่อยจะเจอร้านที่ติดป้าย 5 หยวนทุกชิ้น  ของก็เหมือนกัน 











วันที่สอง  กำแพงเมืองจีน สนามกีฬารังนก พระราชวังฤดูร้อน หวังฝูจิ่ง
อาหารเช้าใกล้ที่พัก  จะนัดให้รถมารับไปกำแพงเมืองจีนแต่เช้า ไม่เกิน 8.00   ถ้าสายรถจะติดมาก คนจะเยอะ  อย่าลืมพกน้ำืดื่มและอาหารเผื่อไปด้วย  น้ำดื่มและอาหารที่กำแพงเมืองจีนแพงมาก
ไปด่านปาต๋าหลิ่ง ก็ประมาณ 50 กม. รถวิ่ง 1 ชม. ใช้เวลาที่กำแพงเมืองจีนประมาณ 2 ชม. ลงมากินร้าน KFC เคเอฟซีที่เชิงกำแพง  แล้วเดินทางกลับเข้าตัวเมืองปักกิ่ง  ถ้าจะทำเวลา ก็สั่งเคเอฟซี หรือ ซื้อซาลาเปา ขึ้นไปกินในรถ (ในกรณีที่เราเหมารถไปเอง)




























แต่ถ้าเที่ยวเสร็จก่อนเที่ยง ยังไม่หิว  และเช่ารถไป  ก็กลับมาทานอาหารกลางวันที่ มหาวิทยาลัยภาษาปักกิ่ง ไปทานเป็ดปักกิ่งใน ศูนย์ประชุมของมหาลัยฯ  อาหารอร่อยมาก ไม่แพง 
 เป็ดตัวนึง 90 กว่าหยวนค่ะ (รับเงินสด)
หรือจะทานอาหารในโรงอาหารนักศึกษานานาชาติก็ได้ (อยู่ชั้น 3 ของโรงอาหาร)  มีอาหารให้เลือกเยอะ  ไม่แพงเหมือนกัน  คนนอกก็เข้าไปทานได้ แต่ต้องซื้อบัตรคูปอง ต้องมีเงินมัดจำบัตรก่อน ทานเสร็จก็เอาบัตรไปคืนและรับเงินมัดจำคืน







จากกำแพงเมืองจีน  ระหว่างทางเข้าเมืองจะผ่านแถวสนามกีฬารังนก แวะเข้าไปถ่ายรูป  ชมแต่ด้านนอกพอ ข้างในไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาซื้อบัตรผ่านประตูเข้าไป ( * จุดนี้ต้องเดินไกลเหมือนกัน  เพราะรถจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปจอดใกล้ๆ )























 ภาพนี่ค่ะ ทางที่จากจุดจอดรถนักท่องเที่ยว แล้วต้องเดินเข้าไปชมสนามกีฬาโอลิมปิค (รังนก) จากจุดนี้เดินไปถึงจุดถ่ายรูปก็กิโลกว่า เดินไป-กลับก็ประมาณ 4 กม.  (เที่ยวทุกจุดต้องเดินหมด)



 
 มีรถบริการด้วย  แต่ต้องรอ 




ถ่ายรูปที่สนามกีฬารังนกเสร็จ ไ ปเที่ยวพระราชวังฤดูร้อน YI HE YUAN ซึ่งไม่ไกลจากสนามกีฬารังนกมากนัก  ใช้เวลาอยู่ที่ันั่นประมาณ 2 ชม.) ร้านค้าในนั้น จะปิดประมาณ 5 โมงเย็น  ร้ากาแฟก็ปิดด้วย หลัง 5 โมงเย็น คนจะน้อย  ควรไปถึงที่นั่นก่อนบ่าย 3



  
ออกจากพระราชวังฤดูร้อน ก็ไปทานอาหารเย็น ที่ร้านสไตล์กำลังภายใน  ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที  (หมายเหตุ ที่ร้านนี้เขาเิปิดสำหรับลูกค้าคนจีนที่รู้ศัพท์แสงกำลังภายในเป็นภาษาจีน  คนไม่รู้ภาษาจีนก็อาจไม่ค่อยสนุก  และไม่มีห้องน้ำ ห้องน้ำสาธารณะใกล้ๆ สกปรกมาก  ควรจะเข้าห้องน้ำที่แหล่งท่องเที่ยวให้เรียบร้อยก่อนค่อยไปที่ร้าน  ร้านอยู่ในซอยเล็ก ๆ หายากหน่อย  ถ้ามีเวลาไปเที่ยวปักกิ่งน้อย ไม่แนะนำให้ไป เพราะจะเสียโอกาสไปเที่ยวที่อื่น)

แต่ถ้าใครจะไปเดินหวังฝูจิ่งในเย็นวันนั้น  ก็ควรจะไปทานอาหารเย็นที่หวังฝูจิ่งเลย ไม่งั้นห้างร้านจะปิดหมดเสียก่อน
ที่หวังฝูจิ่งมีร้านสาขาอาหารเบรนเนมจีนมากมาย  แต่ราคาก็แพง  และก็มีอาหารแปลกๆ ปิ้งย่าง ทอด แบบให้ถือเสียบไม้เดินกิน  ไม่มีภาชนะให้  ถ้าจะไปกินแบบนั้น  ทางที่ดีก็เตรียมถุงร้อนและจานกระดาษไปเอง  นักท่องเที่ยวเขาถือเดินกินกันหมด ก็เลยดูไม่แปลก 

วันที่สาม  วัดลามะ และที่อื่นๆ ตามอัธยาศัย
เช้า  ชมวัดลามะ  แล้วก็ไปทานอาหารติ๋มซำเจ้าอร่อย (ดูในเอนทรี่เก่าเจาะลึกปักกิ่ง) แถว สถานีรถไฟฟ้า ยงเหอกุง YONG HE GONG (ราคาแบบทานเต็มที่อาหารดีๆ ก็ตกคนละประมาณ 380 บาท ถูกกว่าบุบเฟ่ติ๋มซำตามโีรงแรมใน กทม. ซึ่งอร่อยน้อยกว่า)  อยู่ใกล้ๆ กัน ห่างกันประมาณ 2 ป้ายรถเมลล์กรุงเทพฯ ค่ะ  เดินจากวัดลามะไปได้  ไม่ต้องเรียกรถ หรือจะไปทานติ๋มซำเป็นมื้อเช้า แล้วค่อยเดินมาชมวัดลามะก็ได้ค่ะ









































ช่วงบ่าย ก็จัดโปรแกรมชมสถานที่อื่นๆ ตามอัธยาศัย

บางคนก็ชอบไปซื้อของที่ตลาดรัสเซีย  แต่เหล่าซือไม่ค่อยชอบที่นั่น เบื่อคนขายที่บอกราคาผ่านหลายร้อยเปอร์เซนต์  เสียเวลาต่อรอง และบางครั้งไม่ซื้อก็ถูกคนขายดึงแขนดึงกระเป๋าไว้  ดักหน้าดักหลังดึงไม่ให้ออกจากร้าน 
กลางคืน  จะไปเที่ยวแถวหูท้ง (ซอยเล็กเมืองเก่า) ก็ได้  ใกล้ๆ กันก็มีบรรยากาศผับบาร์ย่านทะเลสาบโห้วไห่  อีกฝั่งของทะเลสาบจะเป็นร้านอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกทาน
หรือเลือกจะไปดูกายกรรม การแสดงอื่นๆ ก็ได้
ส่วนโปรแกรมของเหล่าซือก็จะไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของปักกิ่ง และพานั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงไปนครเทียนจิน กลับมาตอน 3 ทุ่ม



ข้อควรระวังในการไปเที่ยวปักกิ่ง

1.  ระวังรถมิจฉาชีพ  และคนล้วงกระเป๋า

     ระวังอย่าใช้รถบริการที่เขามาเรียกแขกตามแหล่งท่องเที่ยว เช่น หลังวังกู้กง  พวกนี้เคยโกงและกรรโชกนักเรียนเหล่าซือ  ตอนตกลงบอกราคาถูกๆ  แต่พอไปถึงที่แล้วเขาเรียกอีกราคานึง  พอไม่ให้ เขาก็ทำท่าโทรศัพท์เรียกพรรคพวกเขามา  
     หลังจากเที่ยวพระราชวังกู้กงและเดินออกจากประตูอีกด้านหนึ่ง จะเมื่อยขามาก พวกนี้จึงมาคอยดักเหยื่ออยู่จุดนั้น
     ถ้ามีผู้ใหญ่หรือเด็กไปด้วย  เหล่าซือแนะนำให้เช่ารถตู้  ค่าเช่าเขาคิดคนต่างชาติแพงหน่อย   รถตู้ที่เหล่าซือเคยใช้  ถ้าใครสนใจก็มาขอเบอร์หลังไมค์ได้  แพงหน่อย แต่ไว้ใจได้  ไม่ได้ปอร์เซนต์จากเขา  เพียงแต่ห่วงคนไทย  กลัวไปโดนคนจีนเอาเปรียบ  เมื่อ 18 ปีก่อน เหล่าซือเคยโดนสามล้อหลอกและเคยถูกล้วงกล้องถ่ายรูปไป  เลยอยากเตือนให้ทุกคนระวังพวกมิจฉาชีพจีนไว้
      สถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมากๆ  เช่น พระราชวังฤดูร้อน  ส่วนที่เป็นระเบียงยาว ให้ระวังนักล้วงกระเป๋า ระวังคนจีนมาเดินชน

2.  ระวังร้านอาหารที่เอาเปรียบ  เช่น ที่กำแพงเมืองจีน  ที่เฉียนเหมิน ระวังอย่าเผื่อไปเข้าร้านที่มีรูปปั้นพระนางซูสีไทเฮาอยู่หน้าร้าน แพงมากๆ เคยมีนักเรียนโดนไปหัวละ เกือบ 2000 บาท
     อาหารและน้ำดื่มที่กำแพงเมืองจีนแพงมาก  โค้กกระป๋องละ 20 หยวน ( 100 บาท ) เหล่าซือต้องซื้อ 9 กระป๋อง 900 บาท  ต่อรองอยู่นานจนเขาให้เหลือกระป๋องละ 10 หยวน ( 50 บาท) ก็ยังต้องจ่ายแพงถึง 450 บาท 
 
3.  ทางขึ้นลงรถไฟฟ้าใต้ดิน  ชันและลึกมาก  แต่ละที่เดินไกล  แต่ละสถานีห่างกันไกลมาก  ไม่เหมือนของ กทม. ช่วงเช้า ช่วงเย็น รถไฟฟ้าแน่นมากจนบางทีขึ้นแทบไม่ได้
     แถมสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งก็เดินเยอะ  เดินกันหลายชั่วโมง  เพราะกว้างเหลือเกิน  คนสูงอายุและเด็กจะเมื่ือยมากๆ  ถ้าใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางต้องอย่าจัดโปรแกรมให้แน่นจนเกินไป










    
4. ก่อนออกจากที่พักทุกเช้าให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด  พยากรณ์อากาศของเขาค่อนข้างแม่นยำ เตรียมเสื้อผ้าให้พอ  อากาศที่ปักกิ่งเปลี่ยนเร็วมาก บางทีลดลงฮวบฮาบนับ 10 องศาภายในเวลาครึ่งวัน  ถ้าเราออกจากโรงแรมแล้วจะไม่สามารถกลับเข้าไปเอาเสื้อผ้าได้  เพราะจะทำให้เวลาไม่พอ (ปีที่แล้วเหล่าซือพลาดมาแล้ว หนาวเกือบแย่) 
บนกำแพงเมืองจีน ช่วงเดือนตุลา - เมษา จะหนาวมาก  ถ้ามีลม จะหนาวสุดๆ  แต่ถ้ามีหิมะ จะลื่นมาก ระวังผู้สูงอายุกับเด็กจะไม่สบาย ให้เตรียมผ้าพันคอหนาๆ ที่ปิดหู หมวก สวมถุงเท้าหนาๆ เครื่องกันผิวแตกแบบเข้มข้น 
ตรวจสอบสภาพอากาศที่ประเทศจีน ได้ที่ http://www.weather.com.cn/forecast/

5.  ต้องเผื่อเวลาไปสนามบิน  สนามบินปักกิ่่งจะปิดรับเช็คอินก่อน 1 ชม.เครื่องออก (เด็ดขาดด้วย ไม่ให้ต่อรอง)  เนื่องจากผู้โดยสารต้องนั่งรถไฟฟ้าภายในสนามบินไปขึ้นเครื่องที่อีกด้านหนึ่ง  ถ้าไปไม่ทัน ก็จะตกเครื่องทันที นักเรียนเหล่าซือเคยตกเครื่องมาแล้วเพราะคิดว่าเหมือนสนามบินเมืองไทย 


ภาพล่างนี้เป็นภาพจากสนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่งขาออก





 อื่นๆ ถ้านึกขึ้นอีก จะกลับมาเพิ่มเติมอีกค่ะ
ยังมีร้านเนื้อแพะหม้อไฟอร่อย ราคาไม่แพง  เอาไว้เขียนเป็นเอนทรี่ใหม่นะคะ 
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและแสดงความเห็นค่ะ
เหล่าซือมีโครงการจะจัดกลุ่มไปอีกครั้ง  ปลายเดือน มีนาคม และ กลางเดือนพฤษภาคม 2014 ค่ะ
รวมทั้งมีโครงการจัดค่ายเที่ยว เรียนภาษา  รู้วัฒนธรรม 4 สัปดาห์ด้วย เนื่องจากช่วงนั้นโรงเรียนต่างๆ จะปรับช่วงเวลาเปิด-ปิดเทอมค่ะ
รายละเอียดเกี่ยวกับปักกิ่ง ดูเพิ่มเติมได้ที่
  
คำถามเพิ่มเติม ( จากคนอ่านที่ส่งอีเมลล์เข้ามา 2013)
 
1.   ถาม  เรื่องอากาศ ตกลงยังหนาวเย็นอยู่ใช่ไหมครับ ผมไปเช็คในเวบ เห็นว่า วันที่ 13 14 (เมษา) อากาศโดดไปอยู่ที่ 20 กว่าเลย ผมก็เลย ไม่แน่ใจว่ามันแค่เย็น ๆ หรือว่าถึงขั้นหนาว จะได้เตรียมตัวถูกครับ
       ตอบ  อากาศ บางทีเอาแน่ไม่ได้ เหล่าซือเคยเจอช่วงสงกรานต์ บนกำลังหนาวจนแทบจะอยากได้ผ้าห่ม 
       ดูแต่อุณภูมิไม่ได้ค่ะ เพราะตัวลม จะทำให้หนาวกว่าอุณภูมิจริงเยอะ ที่ปักกิ่งมักมีลม เตรียมไปไม่ได้ใช้ดีกว่าไม่ได้เตรียมค่ะ 
2.    ถาม  จากหลังวังกู้กง ถ้าจะไปสถานีรถไฟ สักสถานีนึง นั่งรถอะไรดีครับ หรือว่าเดิน ไม่รู้ไกลแค่ไหน 
       ตอบ หลังวังกู้กงไม่มีรถไฟฟ้า  และเหล่าซือยังไม่เคยเดินเลยค่ะ
3.  ถาม ซื้อบัวหิมะได้ที่ไหน
     หลังกู้กงและที่โรงแรมจะมีแจกใบปลิวชวนไปแพ็คเกจทัวร์  มีโปรแกรมไปกำแพงเมืองจีนด้วย  ราคาไม่แพง  แต่ส่วนใหญ่จะพาเราแวะซื้อของเพื่อเป็นรายได้ของเขาด้วย  ลองถามดูว่าเจ้าไหนพาไปร้านบัวหิมะบ้าง  บริษัทที่ขายบัวหิมะอยู่ระหว่างทางไปกำแพงเมืองจีนขาไปค่ะ
     บัวหิมะ ต้องซื้อที่ร้านของเขา ซื้อข้างนอกอาจเจอของปลอม 
      หรือไม่ก็ถามร้านขายยา ที่ชื่อ ถงเหยินถาง  ร้านยาเก่าแก่ยี่ห้อนี้  เชื่อถือได้  มีสาขาอยู่หวังฝูจิ่งด้วย  แต่สาขานั้นจะเอาแต่ของแพงมาขาย เช่น โสมคน ฯ  ไม่รู้จะมีบัวหิมะหรือเปล่า  ถ้าซื้อไม่ได้  บอกมาอีกที  กลาง พ.ค.เหล่าซือจะไป  
4.  ถาม  ซิมโทรที่เข้าเน็ตได้ ที่สนามบินมีมั้ย เพราะจำเป็นต้องใช้ช่วงเดินทาง
     ซิมโทร ไปซื้อที่สนามบินขาออก  ออกจากประตูทางออก  ก่อนออกจากอาคาร ด้านซ้ายจะมีที่ขายซิมโทร  ต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะใช้กับ เน็ตในประเทศจีน  และใช้โทรกลับต่างประเทศ  โดยเฉพาะประเทศไทย
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางค่ะ

Facebook : Suwanna Future C



บทความที่เกี่ยวข้อง


เจาะลึกปักกิ่ง รวมเรื่องและภาพ All about BEIJING 深入北京 走进北京 
 

  (คลิกอ่านที่นี่)

http://suwannas.blogspot.com/2013/04/all-about-beijing.html



เรียนภาษาจีนในไทย ติดต่อเราที่ http://www.futurec-cn.com/








Flag Counter