หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

สนามบินดอนเมืองวันนี้ ภาพมุมสูงก่อนถึงหาดใหญ่ Donmeung Airport - HATYAI


       ทริปเดินทางลงใต้สุดสยามครั้งที่ผ่านมา  เป็นการเดินทางที่มีความหมายพิเศษกว่าทุกๆ ปี  ไม่ใช่เป็นการไปเที่ยวหรือพักผ่อนแบบปกติ




       แต่เป็นการเดินทางเพื่อย้อนกลับไปหาอะไรบางอย่าง .......เป็นการเดินทางที่เรานึกภาพไม่ออกว่าสถานที่ที่เราจะไปนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร  ไปแล้วจะเจออะไรบ้าง        
       ก่อนเดินทาง  ได้รับความห่วงใยจากหลายๆ คนถึงความปลอดภัยที่จะต้องผ่านเขตจังหวัดที่มีปัญหาความไม่สงบและท่ามกลางข่าวที่มีการวางระเบิด ข่าวใช้อาวุธร้ายแรงยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐเสียชีวิตไม่เว้นแต่ละวัน

       ปลายมีนาคม 2012  ก็ตั้งใจจะไป  เดิมจะไปพักที่โรงแรมลีการ์เด้น หาดใหญ่ 1 วันก่อนที่ลีการ์เด้นจะถูกคนร้ายลอบวางระเิบิด  พอดีตัดสินใจเลื่อนไปเสียก่อนเลยรอดไป

       ครั้งนี้  ก็เช็คข่าวจากคนในพื้นที่ปลายทางที่เราจะไป  รวมทั้งสอบถามสภาพจากคุณบล็อกเกอร์ชบาตานี  ก็ได้รับคำยืนยันว่า "มาได้"  ยังไม่เคยมีเหตุร้ายเกิดกับนักท่องเที่ยวเลย

       แต่ก็มีเสียงบอกว่า " อะไรๆ ก็มีครั้งแรกได้เสมอ " .......   " เคยเกิดเหตุผู้โดยสารในรถตู้ถูกยิงตายหมดมาแล้วนะ "

       ใจจริงก็กลัวๆ กล้าๆ  แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง  ทำให้ตัดสินใจเดินทางไปช่วงนี้  รวมถึงโน้มน้าวให้คนในครอบครัวไปด้วยกันหมดเลย

       ไม่วายคิดในใจ  " นี่ถ้าเกิดอะไรขึ้นทั้งครอบครัว แล้วจะเป็นยังไง "

      การเดินทางจึงเริ่มขึ้นด้วยความรู้สึกที่มีความกังวลปนอยู่ไม่น้อย........ เป็นการเดินทางที่รู้สึกไม่เหมือนกับทริปอื่นๆ จริงๆ   

        28 ธันวาคม ออกจากบ้าน 10.50  เรียกแท๊กซี่มุ่งหน้าไปสนามบินดอนเมือง  เพื่อไปขึ้นเครื่องบินของนกแอร์สู่ภาคใต้

        วันแรกจะแวะที่หาดใหญ่ และพักที่นั่น 1 คืนก่อนเดินทางต่อไปยังเป้าหมายหลัก


ก่อนอื่น  อยากจะขอเล่าถึงสภาพที่ดอนเมืองและภาพน่าสนใจบางภาพที่ถ่ายได้จากบนเครื่องบิน


เรื่องแรก

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราใช้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ  ตอนแรกก็ไม่แน่ใจในเรื่องของการบริการของสายการบินลักษณะนี้  เมื่อไปเช็คอินก็พบว่าพนักงานเคาร์เตอร์เช็ดอินนกแอร์ให้การต้อนรับดีมาก  ยิ้มแย้มแจ่มใส  พูดจาดี  อย่างนี้คงต้องมาใช้บริการครั้งต่อไปอีกแน่นอน
  
        ค่าเครื่องบินของนกแอร์ ได้รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าที่โหลดไปกับเครื่อง 15 กก. แล้ว  ไม่ต้องซื้อค่าน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มต่างหาก  ก็สะดวกดี  จะได้ไม่ต้องจุกจิก  พนักงานบริการบนเครืืองก็ดี ระหว่างทางมีขนมบราวนี่และน้ำดื่มบริการด้วย

การเดินทางครั้งนี้ ขากลับเราซื้อตั๋วนกแอร์ได้ในราคา 1550 / คน โดยผ่านโปรโมรชั่นของบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย  ซึ่งถือว่าไม่แพง



เรื่องที่สอง
ตั้งแต่เปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นต้นมา  นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เรามาใช้สนามบินดอนเมืองอีกครั้ง
พบว่าดอนเมืองโล่งมาก  ที่ลานบินมีเครื่องจอดอยู่ไม่กี่ลำเอง



ที่นั่งรอขึ้นเครื่องก็โล่ง  นี่ขนาดเป็นช่วงวันหยุดยาวปีใหม่



เราต้องเดินไปขึ้นเครื่องของนกแอร์ไกลเหมือนกัน คือ ประตูที่ 41  
            ตลอดทางที่เดินผ่านมา  มีคนไม่มาก  แต่ก็ต้องเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำทั่วทั้งตึกและตลอดทางเดินซึ่งเป็นบริเวณกว้าง เปลืองไฟมาก  ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าจากจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่น้อยขนาดนี้ การบริหารของการท่าอากาศยานดอนเมืองจะไม่ขาดทุนได้หรือ ?  เสียดายเงินส่วนนี้  มาจากเงินภาษีหรือเปล่า 
สำหรับเที่ยวบินที่ไปหาดใหญ่  ผู้โดยสารส่วนมากเป็นคนที่เดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่หรือไปเยี่ยมญาติ  ไม่ใช่นักท่องเที่ยว



สายการบินนกแอร์  เสียอยู่อย่างหนึ่งคือ  เครื่องมักดีเลย์ ไม่ตรงเวลา  เดินทางช้ากว่าเวลากำหนดบ่อยๆ  เรื่องนี้ได้ยินคนบ่นมาตั้งแต่ก่อนซื้อตั๋ว  คนขับแท๊กซี่ก็บอก   อย่างเที่ยวบินที่เราไปครั้งนี้ก็เหมือนกัน  เครื่องออกดีเลย์ไป 40 นาที  
คุณสำรวจฟ้าโทรมาตอนเราอยู่ที่ดอนเมืองตั้งหลายครั้งแล้ว  เครื่องก็ยังไม่พร้อมที่จะออกเดินทาง



ขึ้นเครื่องได้แล้ว  รีบโทรไปบอกคุณสำรวจฟ้าทันที
  

 เรื่องที่สาม ภาพน่าสนใจบางส่วนที่เห็นจากบนเครื่อง

เครื่องขึ้นแล้วก็ชมวิวกรุงเทพฯ จากมุมสูง  มุ่งหน้าไปทางใต้  แม่น้ำเจ้าพระยาส่วนนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นสะพานอะไร  ใครดููออกช่วยบอกด้วย 
ภาพนี้บินเหนือปากน้ำเจ้าพระยาที่ไหลลงสู่ทะเลที่อ่าวไทย



 ภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่ออกสู่อ่าวไทย 
 

ภาพมุมสูง  ปากน้ำ จังหวัดสมุรปราการ



 บนเครื่องนกแอร์บริการขนมบราวนี่ขนาดน่ารักและน้ำดื่มทั้งขาไปและขากลับ  อร่อยดี  แก้หิวได้บ้าง  เพราะเดิมเครื่องกำหนดจะออก 13.05 ทำให้เรารีบๆ เดินไปที่ประตูขึ้นเครื่อง  แค่หาอะไรง่ายๆ รองท้อง กะว่าจะไปทานที่หาดใหญ่



ถ้าต้องการอย่างอื่น บนเครื่องก็จะมีของกินขาย  ราคาก็สูงกว่าที่พื้นดิน เพราะเอาไปขายบนฟ้า 

 บินถึงไหนแล้วไม่รู้   มองลงไปเห็นมีรูปรีๆ คล้ายสนามกีฬา มีทะเลสาบด้วย  ก็เดาว่าอาจเป็นแถวสงขลาหรือนครศรีธรรมราช  
ชายฝั่งทะเลแถวนี้เป็นเส้นตรงดี  (ที่เห็นในภาพ ด้านบนสีฟ้าเขียวเป็นทะเล)



แต่มาสะดุดกับภาพที่เห็นเบื้องล่างนี้ คือ เห็นแม่น้ำสีดำ  และน้ำสีดำนี้ไหลลงทะเล



 ตามดูต่อ  ปากแม่น้ำสายนี้ใหญ่พอสมควร น้ำที่ไหลลงสู่ทะเลเป็นสีดำจริงๆ



ภาพมองจากเครื่องบินลงมา ทั้งภาพบนและภาพล่าง จะเห็นว่าแม่น้ำและแหล่งน้ำเป็นสีดำเข้มๆ  



 เห็นแ้ล้วรู้สึกว่า แม่น้ำสีดำอย่างนี้  จะเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตแถบนั้นแค่ไหน  มีผลต่อสัตว์น้ำในทะเลอย่างไร
อยากรู้มากๆ ว่า น้ำ ทำไมถึงเป็นสีดำ  มลภาวะที่เกิดจากอะไร   อยู่ที่ไหน  แม่น้ำอะไร  ท่านผู้อ่านที่ทราบช่วยบอกด้วย

บินมาอีกหน่อยก็เป็นภาพล่างนี้  จึงเดาว่าที่เห็นแม่น้ำสีดำอาจเป็นเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชก็ได้



 เครื่องลดระดับลงแล้ว



 ทัศนียภาพที่เห็นจากเครื่องบินในส่วนนี้ดูสวยมาก



เดาว่าที่เห็นข้างล่าง พืชที่ปลูกเป็นแุถวๆ นี้เป็นต้นยางพารา



 เริ่มเข้าสู่เขตที่มีบ้านเรือน  น่าจะเข้าเขตหาดใหญ่แล้ว



(接近泰国合艾国际机场。往下看是一片美丽的景色。)



 เมืองไทยเราสวยจริง ๆ



คิดถูกแล้วที่จองที่นั่งติดหน้าต่างมา  เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาทีของการเดินทางจากกรุงเทพฯ มาหาดใหญ่เป็นอะไรที่ไม่น่าเบื่อเลย และไม่มีเวลาให้หลับด้วย



 ปิดท้ายเอนทรี่นี้ด้วยภาพอาหารเช้าของวันต่อมาที่หาดใหญ่




รูปสุดท้ายเป็นอาหารเช้าของวันรุ่งขึ้น ในโรงแรมที่หาดใหญ่ค่ะ


ขอบคุณพื้นที่ของ Google 
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านและทุกความเห็น
ขอบคุณท่านที่มาเติมเต็มข้อมูลให้สมบูรณ์


   


Flag Counter

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น