หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

ศัพท์จีนสับสน (1) 泰语、泰文、汉语、华语、普通话、国语、中文 คำเหล่านี้ใช้ต่างกันอย่างไร ?


             การเลือกใช้คำศัพท์ภาษาจีนให้ถูกต้อง 
เป็นส่วนสำคัญในการสื่อความอย่างถูกต้องเหมาะสม 
มีคำศัพท์ภาษาจีนหลายคำที่คนไทยมักใช้ผิดหรือรู้สึกสับสน  
              วันนี้  เราจะมาคุยกันต่อเรื่องคำจีนที่เกี่ยวกับคำว่า ภาษา  กัน 

             泰语、泰文、汉语、华语、普通话、国语、中文  คำเหล่านี้ใช้ต่างกันอย่างไร ?
           


Credit
           
          คำว่า “语 yǔ ”   "语言  yǔyán ”   และ 文 wén ”  ในภาษาไทย ต่างก็แปลได้ว่า "ภาษา"
            แต่ในภาษาจีน คำเหล่านี้ มีการใช้ที่ต่างกัน
     
      คำว่า 语言 ( ภาษา )  เป็นคำเรียกรวมที่หมายถึง สื่อทุกชนิดที่สามารถสื่อสารทำความเข้าใจกันได้  รวมทั้งภาษาพูด (ใช้เสียงเป็นสื่อ ) และภาษาเขียน (ใช้ตัวอักษรเป็นสื่อ) 
ภาษาพูด  ใช้เสียงเป็นสื่อ เช่น คำว่า 汉语、华语、泰语、英语 เป็นต้น 

ภาษาเขียน  ใช้ตัวอักษร (文字) เป็นสื่อ  เช่นคำว่า  中文、泰文、英文报。

泰语   หมายถึง  ภาษาพูดที่สื่อด้วยเสียงภาษาไทย
泰文   หมายถึงภาษาเขียนที่สื่อด้วยอักษรของไทย
汉语   หมายถึง  ภาษาพูดโดยรวมทุกสำเนียงของชาวฮั่น
           รวมถึงภาษาถิ่นอย่างแต้จิ๋ว  ภาษาฮากกกา ภาษากวางตุ้ง ฯลฯ (ประชากรประเทศจีนปัจจุบัน มี 5 ชนชาติใหญ่ เป็นชนชาติฮั่นมากกว่า 92%

ชาวจีนยังเรียก  汉语 (Hànyǔ) ว่า 华语 Huáyǔ ด้วย เพราะอะไร ? 
เนื่องจากประเทศจีนสมัยโบราณมีชื่อว่าประเทศ “华夏 Huáxià ”  นั่นเอง 
ชาวฮั่นใช้คำว่า 中华民族  แทน “ ชนชาติจีน  


ชื่อประเทศจีนอย่างเป็นทางการ  จึงใช้ชื่อว่า
中华人民共和国 (สาธารณรัฐประชาชนจีน)

ชาวจีนอพยพจึงเรียกว่า  华侨 ( ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า ฮว๋าเฉียว   ในประเทศไทยกลายเสียงเป็นหัวเฉียว ตามเสียงสำเนียงจีนแต้จิ๋ว) 
ส่วนลูกหลานชาวจีนอพยพรุ่นต่อๆ มาก็เรียกว่า 华裔 (ออกเสียงว่า ฮว๋ายี่)  
ลูกหลานชาวจีนที่เกิดในไทยก็เติมคำว่า 泰国  ลงไป  เป็นคำว่า 泰国华裔 ( Tàiguó Huáyì แปลว่าชาวไทยเชื้อสายจีน )    

   ภาษาเขียนของชาวจีน  เรียกว่า  中文   ซึ่งแปลได้ว่า  ภาษากลางที่สื่อด้วยตัวอักษร  หรือ  ภาษาเขียนที่ใช้เป็นภาษากลาง  เนื่องจากชาวจีนทุกท้องถิ่น  ทุกสำเนียงใช้อักษรจีน (汉字) เป็นภาษาเขียนแบบเดียวกันในการสื่อความเข้าใจกัน
   แต่จากการที่ชาวจีนมีภาษาถิ่นหรือสำเนียงพูดท้องถิ่นที่แตกต่างกันอยู่จำนวนมาก และบางสำเนียงออกเสียงไม่เหมือนกันเลย เช่น คนแต้จิ๋วพูดคำว่า "เจียกปึ่ง" แปลว่า กินข้าว ส่วนคนฮากกาพูดว่า "ซึดฟั้น" (กินข้าว) สื่อกันด้วยเสียงสำเนียงของแต่ละท้องถิ่นจึงสื่อกันไม่รู้เรื่อง คนพูดสำเนียงแต้จิ๋วก็สื่อกับคนพูดสำเนียงเซี่ยงไฮ้ไม่รู้เรื่อง

  ดังนั้น  นอกจากจะต้องมีภาษาเขียนที่เป็นภาษากลาง (中文) แล้ว   ยังจำเป็นต้องมีเสียงสำเนียงพูดที่เป็นภาษากลางในการสื่อสารเป็นทางการอีกด้วย 
  
  ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเรียกสำเนียงภาษาจีนกลางนี้ว่า 
 普通话 ( Pǔtōnghuà = ภาษา Mandarin) ซึ่งแปลได้ว่า "ภาษาสามัญทั่วไป"  

  เมื่อประมาณ 40 กว่าปีก่อน  คนไทยเราเรียกสำเนียงพูดภาษาจีนกลางแบบ 普通话 ว่า  "国语"  ซึ่งคำว่า 国语 นี้ แปลว่าภาษาแห่งชาติ  (แต่ปัจจุบันมีการใช้คำนี้น้อยลง มีไต้หวันยังคงเรียกภาษาจีนกลางว่า 国语 อยู่ )

  สมัยก่อน  แต่ละท้องถิ่นจะเรียนอักษรจีนโดยออกเสียงตามภาษาท้องถิ่นของตนเอง  คนแต้จิ๋วก็อ่านออกเสียงเป็นสำเนียงแต้จิ๋ว คนกวางตุ้งก็อ่านออกเสียงเป็นกวางตุ้ง คนฮกเกี้ยนก็ออกเสียงตามภาษาฮกเกี้ยน เราจึงเห็นชื่อคน ชื่อสถานที่ ในวรรณกรรมแปลภาษาไทย เช่น ชื่อตัวละครในสามก๊ก มังกรหยก ออกเสียงแตกต่างจากภาษาจีนกลาง ฯลฯ   
  ต่อมารัฐบาลจีนต้องทั้งรณรงค์ และทั้งบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับให้ทุกคนต้องเรียนภาษาจีนกลางมาตรฐาน (เหมือนคนไทยทุกภาคต้องเรียนภาษาไทยกลาง)
  
  แต่ถึงกระนั้นก็ตาม  ในประเทศจีนปัจจุบัน  ก็ยังคงมีคนจำนวนมากที่ออกเสียงภาษาจีนกลางได้ไม่ชัด  แม้แต่คนรุ่นใหม่บางส่วน (ที่ผู้เขียนประสบด้วยตนเอง)

  ทำไมชาวจีนเอง(ส่วนหนึ่ง) จึงออกเสียงจีนกลางไม่ชัด ?  
  จากการศึกษาค้นคว้า ผู้เขียนเห็นว่ามีอยู่สองสาเหุตใหญ่ นั่นคือ
 
  1.  เนื่องจากในแต่ละท้องถิ่นยังนิยมใช้ภาษาถิ่นในการสื่อสารกันเอง  เช่น  ในเกาะฮ่องกง  นครกวางเจา นครเซินเจิ้น ฯลฯ  ยังรักษาวัฒนธรรมภาษาถิ่น นิยมใช้กวางตุ้งในชีวิตประจำวัน  คนในนครคุนหมิง ในมณฑลยูนนานนิยมใช้ภาษาจีนยูนนาน เป็นต้น   

  2.  ในภาษาท้องถิ่นบางภาษา  ไม่มีคำบางคำที่ออกเสียงเหมือนการออกเสียงภาษาจีนกลาง  ยกตัวอย่างเช่น  ภาษาถิ่นทางใต้หลายมณฑล  ภาษาถิ่นจีนแต้จิ๋ว ไม่มีเสียงตัวสะกด แม่ กน   คนกลุ่มนี้จึงออกเสียงที่มีแม่กนสะกดไม่ค่อยชัด  เช่น  an  (อัน) ออกเสียงเป็น ang (อัง)     เสียง jian (เจียน)  ออกเป็น  jiang (เจียง)  เนื่องจากภาษาถิ่นของเขาไม่มีตัวสะกดนี้
       ภาษาถิ่นบางภาษา ไม่มีพยัญชนะต้นเสียง L (ล)  จึงออกเสียง L ในภาษาจีนกลางเพี้ยนเป็นเสียงพยัญชนะ N  เช่น 篮子 (lánzi ตะกร้า) เป็นเสียง 男子 (nánzi  ผู้ชาย) เป็นต้น 
...........................................................


             คำศัพท์ภาษาจีนที่คนไทยเรารู้สึกสับสน ก็คือ 
         汉语   华语 และ 中文  ในภาษาไทยต่างก็ แปลว่า “ภาษาจีน”  
         泰文  กับ  泰语     ในภาษาไทยต่างก็ แปลว่า “ภาษาไทย” 
         普通话 กับ  国语      ในภาษาไทยต่างก็ แปลว่า “ภาษาจีนกลาง”
         ทั้งนี้ เพราะคำว่า "ภาษา" ในภาษาจีนแยกเป็นหลายคำเพื่อบอกความต่าง แต่ในภาษาไทย ใช้คำเดียวแทนทุกมิติ

      เมื่อก่อน เราจะได้ยินคนถามว่า
     你会说国语吗? Nǐ huì shuō Guóyǔ ma?
     你会说华语吗? Nǐ huì shuō Huáyǔ ma? 

          ประโยคภาษาอังกฤษก็จะถามว่า
          Can you speak Mandarin?
          Do you speak Chinese?

          (หลายคนงงงวย แล้วมันต่างกันอย่างไร ? )

        แต่ปัจจุบัน เราจะได้ยินคนจีนถามว่า 
     你会说普通话吗?Nǐ huì shuō Pǔtōnghuà ma?
     ซึ่งหมายความว่า "คุณพูดภาษาจีนกลางได้ไหม ?" (ไม่ได้หมายถึงภาษาจีนท้องถิ่น)
 
     หลายปีก่อนมีเพื่อนคนหนึ่งไปที่เซี่ยงไฮ้ มีคนจีนมาถามเขาว่า 
     你会说普通话吗 ?(ผู่ทุ้งฮว่า แปลว่าภาษาจีนกลาง)
     แต่เพื่อนเข้าใจว่าคนจีนเขากำลังพูดถึง "ผู่ตุง (浦东)” ซึ่งเป็นเมืองอีกฝั่งหนึ่งของนครเซี่ยงไฮ้

       แต่ถ้าจะถามว่า "คุณมีชื่อภาษาจีนไหม ?" ต้องใช้คำว่า 中文名字
     รูปประโยคก็จะเป็น
     “你有中文名字吗?" 
           “ Do you have a Chinese name ? " 
         ........................................
         หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์
             สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云

        ข้อเขียนนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ฉับบปรับปรุงแก้ไข 2558  
        ยินดีเผยแพร่  แต่ไม่อนุญาตให้คัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดไปโพสต์ต่อ   
        ท่านที่ให้เกียรตินำไปเผยแพร่ต่อ ต้องไม่ตัดทอนบทความ  ระบุแหล่งที่มาชัดเจน และแจ้งให้ผู้เขียนทราบ  
...................................................
www.futurec-cn.com
Facebook : Suwanna Future C 
บทความนี้โพสต์ครั้งแรกที่ OKnation Blog



วันพุธ ที่ 17 พฤศจิกายน 2553



Posted by เหล่าซือสุวรรณา , ผู้อ่าน : 5696


  
" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" postmessage_init="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" sendxdhttprequest="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" setcache="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" getcache="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" setcachecontext="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }" clearallcache="function () { return eval(instance.CallFunction("" + __flash__argumentsToXML(arguments,0) + "")); }">


..๑๑๑๑๑




อ่านเรื่องเกร็ดภาษาจีน  หวังว่าทุกคลิกของท่านจะได้รับประโยชน์จากบทความเหล่านี้ ขออภัยในข้อบกพร่องใดๆ และขอความกรุณาช่วยชี้แนะด้วยค่ะ Flag Counter

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น