ตอนที่แล้วลงรูปเกาะพีพี
ตอนนี้จะย้อนกลับมาเล่าถึงตอนเดินทางจากรุงเทพฯ ไปกระบี่ ที่เราขับรถไปเอง
ระหว่างทางผ่านชุมพร - สุราษฎร์ และได้แวะชมแวะเที่ยวสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น โบราณสถานพระธาตุไชยา และสวนโมกข์แหล่งธรรมะ และได้ไปทานอาหารทะเลอร่อยที่ร้านลำพู 3 ด้วย
แต่เรื่องและภาพรวมกันแล้วค่อนข้างยาว ก็ขอแบ่งตอนย่อยๆ ออกไปอีก 2 ตอนค่ะ
- ภาพที่พักน่ารักที่ชุมพร ชลิชา รีสอร์ท ชานเมืองชุมพร
- ภาพพระธาตุไชยา
......................................................
วันก่อนเล่าถึงเรื่องเกาะพีพี เมืองน่าอยู่กระบี่ และเรื่องอันตรายที่ควรระวังเกี่ยวกับการเที่ยวทะเล
วันนี้ขอย้อนกลับไปเล่าเรื่องการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปกระบี่หน่อยค่ะ
ได้รับคำถามว่า ขับรถไปเองเลยหรือครับ กรุงเทพฯ-กระบี่ไกลมาก
" ขับรถไปจาก กทม. นี่ท่าทางเหนื่อยเอาเรื่องเลยน่ะครับ "
ทริปนี้ขาไปเราไม่ได้ขับรวดเดียวถึงค่ะ (ความจริงรวดเดียวถึงได้ แต่คนนั่งเมื่อยมาก)
จาก กทม. - ไปชุมพร พักที่ชุมพร 1 คืนก่อน
วันรุ่งขึ้นขับจากชุมพร - สุราษฎร์ - กระบี่ ขับแบบสบายๆ ค่ะ
แต่ขากลับ พอดีติดใจบรรยากาศพักต่อที่กระบี่อีก 1 คืน เลยต้องทำเวลาขับยาวรวดเดียวจากกระบี่ถึงกรุงเทพฯ เหนื่อยมากเลยค่ะ
ตอนอายุน้อย ลูกยังเล็ก สามีดิฉันก็เคยขับยาววันเดียวกรุงเทพฯ - ภูเก็ต กรุงเทพฯ - เชียงรายมาแล้วค่ะ (ออกรถตี 4) ตอนนั้นเตรียมที่นอนให้ลูกนอนในรถเลย (ตอนนั้นพ่อบ้านขับมือเดียว ดิฉันเป็นคนดูแผนที่)
เอารถไปเอง เหนื่อย แต่ชอบค่ะ เพราะอยากแวะที่ไหนก็ได้ ได้ผ่านจังหวัดต่างๆ ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนและชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางด้วย ที่สำคัญคือสอนลูกให้รู้จักสังเกตทาง ทิศและแผนที่ค่ะ
ความจริงมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ชอบขับรถไปก็คือ เวลาเห็นใครจอดรถเยอะๆ กินอะไรที่ไหน ก็จะได้จอดชิมกะเขาด้วย
ก่อนเดินทางไปไหนทุกครั้ง ดิฉันจะต้องทำการบ้านก่อน นั่นก็คือหาข้อมูลนั่นเอง
เช่น เรื่องที่พัก ได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครองนักเรียนของเราซึ่งเป็นชาวชุมพร ก็ติดต่อได้ที่พักน่ารักแห่งหนึ่งซึ่งราคาประมาณคืนละ 1000 บาท ไม่รวมอาหารเช้า
เนื่องจากเรามีเวลาน้อย วันเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ช่วงเช้าต้องทำงานก่อน ตียาวถึงกระบี่คงไม่ไหว พักที่ชุมพร 1 คืนก่อน
วันแรกของการเดินทาง
ออกรถช่วงบ่าย ไปตามเส้นถนนพระราม 2 (ทางหลวง 35 ถนนธนบุรี-ปากท่อ) ส่วนตัวชอบเรื่องภูมิศาสตร์และแผนที่ ผ่านเมืองมหาชัย (สมุทรสาคร) ผ่านนาเกลือที่แม่กลองที่มีกังหันวิดน้ำเข้านา ผ่านทางแยกเข้าจังหวัดสมุทรสงคราม ผ่านทางเข้าดอนหอยหลอด ถึงแยกวังมะนาว ราชบุรี ผ่านเขาวังเพชรบุรี ผ่านกุยบุรี ผ่านประจวบคีรีขันธ์ที่ทหารญี่ปุ่นเคยยกพลขึ้นบกบุกประเทศไทยที่อ่าวมะนาว มองเห็นเขาช่องกระจก ผ่านคอคอดกระที่เป็นช่วงที่แคบที่สุดของประเทศไทย แวะพักรถที่ทับสะแก ชิมกล้วยเล็บมือนาง เข้าเขตจังหวัดชุมพร เมืองหน้าด่านของภาคใต้ ผ่านทางเข้าหาดทุ่งวัวแล่น ฯลฯ
ก็บอกลูกว่า เราได้เดินทางผ่านหลายจังหวัดเลย และเทือกเขาที่เห็นอยู่ทางขวามือขาลงใต้นั้นคือเทือกเขาตะนาวศรีที่กั้นพรมแดนไทย-พม่านะคะ
ขับไปเรื่อยๆ ระยะทาง 463 กิโลเมตรโดยประมาณนับจากดาวคะนอง ก็มาถึงตัวเมืองจังหวัดชุมพรในตอนเย็นประมาณ 6 โมงกว่า ๆ ระหว่างทางเจอฝนบ้าง ขับช้าลง แต่ก็ไม่รีบอะไร มีเสบียงในรถและมีที่พักแน่นอนอยู่แล้ว
ภาพข้างบนทั้งหมดนะคะ คือ ภาพของ ชลิชา รีสอร์ท ชานเมืองชุมพร ที่มีคนแนะนำให้มาพักค่ะ
ภาพของรีสอร์ทนี้จะเอามาลงในเอนทรี่ต่อไปนะคะ
ได้ที่พักเรียบร้อย ก็ไปเดินชมตัวเมืองชุมพรสักหน่อย ไปทานผัดไทที่ตลาดโต้รุ่ง ในตลาดเห็นมีฝรั่งพอสมควร คงเป็นนักท่องเที่ยวที่ข้ามไปเที่ยวเกาะเต่า
ตรงนั้นมีร้านขายโรตีที่ขายดีมากอยู่เจ้านึง คนเข้าแถวรอ เราก็ไปเข้าแถวรอกับเขาด้วย อร่อยมาก ไม่เสียแรงที่รอ แต่ไม่กล้าถ่ายรูปเขามาค่ะ เพราะไม่เห็นมีใครเขาถ่ายรูปกัน
วันรุ่งขึ้นทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็ออกจากรีสอร์ท ขับรถมุ่งหน้าไปยังสุราษฎร์ธานี ปลายทางวันนั้นคือตัวเมืองกระบี่
ลูกเคยอ่านและติดใจเรื่องราวของ "เด็กหญิงสวนกาแฟ" ซึ่งมีเค้าเรื่องจาก อ. หลังสวน จ.ชุมพร เราก็เลยแวะรถเข้าไปดูในเขตชุมชนหลังสวนกันหน่อย อยากจะไปตามรอยหาสถานที่ซึ่งในหนังสือ "เด็กหญิงสวนกาแฟ" พูดถึง คนท้องถิ่นบอกว่าต้องเข้าไปไกลมาก เลยตัดสินใจไม่ไปเพราะกลัวจะไปกระบี่ไม่ทันฟ้ามืด
ตอนออกมาจากหลังสวนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม สะดุดตากับป้ายจราจร ที่เขียนว่า " เลี้ยวซ้ายเมื่อปลอดภัย " แทน คำว่า เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด เออ ... เข้าใจเขียน
เป้าหมายการเดินทางของเราต่อจาก อ. หลังสวน ก็คือ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตำบลเวียง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เคยไปนมัสการพระธาตุไชยามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 28 ปีก่อน จึงอยากจะพาลูกๆ มานมัสการอีกครั้งเพื่อเป็นสิริมงคล มาชมปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้
ถ้าไปจากกรุงเทพฯ จะเลี้ยวเข้าถนนเล็ก อยู่ฝั่งซ้ายมือ ก่อนถึงตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ 54 กิโลเมตร มีป้ายบอกทาง
(ภาพวัดพระธาตุไชยา จะมาลงเพิ่มเป็นเอนทรี่ต่อไปค่ะ )
นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ภาพถ่ายได้ไม่สวยเท่ามืออาชีพ แต่ก็ภูมิใจและมีความสุขที่ได้พาลูกๆ มาทีนี่สักครั้งหนึ่งในชีวิต
สถานที่สำคัญด้านธรรมะของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง คือ วัดสวนโมกข์ที่ท่านพุทธทาสภิกขุ เคยออกเทศนาธรรม
ห่างจากวัดพระธาตุไชยาไม่มากนัก ถ้าไปจากกรุงเทพฯ วัดสวนโมกข์จะอยู่ด้านขวามือ
ชมภาพเพิ่มเติมที่เอนทรี่ : วัดสวนโมกข์ ท่านพุทธทาสภิกขุ เลื่อมใสและศรัทธา
http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2012/06/06/entry-1
.....................................................
สถานที่ต่อไปคือขับรถเข้าไปชมตัวเมืองสุราษฎร์ธานี และตามหาร้านอาหารที่เคยมาทานเมื่อหลายปีก่อน
ขับรถผ่านโรงแรมสยามธานี เคยมาพักตอนมาเที่ยวกับเถกิงทัวร์ เป็นที่พักที่ดี
ข้ามแม่น้ำตาปี เห็นโรงแรมวังใต้ ที่เคยมาพักหลายครั้ง ค่าพักไม่แพง เก่าหน่อย แต่อาหารเช้าอร่อยและหลากหลายมาก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำตาปี บรรยากาศดี โรงแรมนี้นอกจากจะมีอาหารเช้าแบบอเมริกันแล้ว ยังมีอาหารใต้อร่อยๆ อย่างขนมจีนปักษ์ใต้ แกงไตปลา ข้าวยำ ข้าวต้มกุ้งตัวใหญ่ๆ ด้วย
ผ่านร้านฉ่ายฮวยโภชนา ร้านอร่อยที่เคยไปทานเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน ก็ยังอยู่ที่เดิมเลย ตอนนั้นเหล่าซือไปกับคณะนักธุรกิจไต้หวันที่ไปชมโรงงานแพนเอเชียซีฟู้ด จ. สุราษฎร์ จำได้ว่าลูกสาวเจ้าของร้านดุ ตอนนี้คงเป็นเถ้าแก่เนี้ย (เจ้าของร้านที่เป็นผู้หญิงไปแล้ว)
ขับไปจนถึงปากน้ำตาปี แล้วเราก็เลือกทานร้านที่เคยทาน คือ ร้าน ลำพู 3 ปากน้ำตาปี
เราสั่งปูทะเลนึ่ง ตัวใหญ่มาก สดมากด้วย แต่ลืมถ่ายรูปไว้ หมดเสียก่อน ยำไข่แมงดา รสชาติสุดยอด
ต้มยำกุ้งแชบ๊วย สั่งแบบไม่เผ็ดมาก กุ้งตัวใหญ่เบ้อเริ่ม มีห่อหมกด้วย
ร้านนี้คนแน่นมากๆ ราคาอาหารไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพอาหาร ที่ใหญ่ๆ ทุกจาน ทานไป 1000 ต้นๆ ไม่หมดแพ็คไปทานต่อที่โรงแรมในกระบี่
มีโอกาสไปสุราษฎร์อีกเมื่อไหร่ จะต้องไปพักที่วังใต้และไปทานที่ลำพู 3 นี่แหละ
อาหารอร่อยในบรรยากาศปากแม่น้ำตาปี ฝั่งตรงข้ามคือวิถีชีวิตชาวบ้าน
แม่น้ำดูเรียบ สงบ มีผลต่ออารมณ์คนนะคะ
ทานไปสักพัก ฝนตก ท้องฟ้าเลยสีไม่สวย แต่อยากเก็บภาพไว้ดู ที่มองออกไปตรงระหว่างช่องนั้นก็คือ อ่าวไทย ที่แม่น้ำสายนี้ไหลลงไปค่ะ
เราทานอาหารเที่ยงเสร็จประมาณ บ่าย 2 โมงกว่า ขับรถเดินทางไปตามเส้นทาง 41 แล้ววกเข้าเส้นทาง 401 มุ่งหน้ากระบี่ ถึงกระบี่ตอนเย็นๆ
ที่เล่ามาเป็นอะไรที่เก็บตกจากทริปเที่ยวกระบี่ช่วงปีใหม่ 30 ธันวา 2010 - 2 มกราคม 2011
โปรแกรม ชุมพร พระธาตุไชยา วัดสวนโมกข์ เมืองสุราษฎร์ เมืองกระบี่ เกาะพีพี อ่าวนาง รวม 4 วัน 3 คืน
งบประมาณทริปนั้น 4 ผู้ใหญ่ 20000 บาท +-
การไปเที่ยวกระบี่ พีพี อ่าวนาง ด้วยงบขนาดนี้ ถือว่าคุ้มจริงๆ ค่ะ ปกติการไปเที่ยวกระบี่ พีพี จะแพงกว่าไปเที่ยวที่อื่น
เป็นค่าที่พักประมาณ 7000 ค่าน้ำมันรถประมาณ 5000 ไม่มีค่าผ่านทางด่วน ค่าเรือประมาณ 4000 นอกนั้นเป็นค่าอาหาร
อ่านเรื่องเดิมที่
ดินแดนแสนงาม (1) เกาะพีพี 泰国甲米皮皮岛 Phi Phi Island (1/2)
http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2012/11/26/entry-1
เกาะพีพี - ผู้คนน่ารักเมืองกระบี่ - ที่พักดีไม่แพง 2/2 http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2012/11/26/entry-1
http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2012/11/28/entry-1
ตอนต่อๆ ไป จะเป็นภาพที่พักในชุมพร ภาพพระธาตุไชยา
รูปเก็บตกจากกระบี่ ........ อ่าวนาง หาดสวยของกระบี่ค่ะ
รูปเก็บตกจากกระบี่ ........ อ่าวนาง หาดสวยของกระบี่ค่ะ
เที่ยวแบบนี้ งบไม่บาน ที่พักชุมพร ร้านอร่อยปากน้ำตาปี พระธาตุไชยา วัดสวนโมกข์
tag: สุราษฎร์ธานี วัดพระธาตุไชยา ร้านอาหารอร่อย
ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่าน มาทักทายและเพิ่มเติมความเห็นค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น